สาระสำคัญ

Monday, June 18, 2018

จีนมีวันนี้...ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

น่าคิด
จากณรงค์ โชควัฒนา

ปุจฉา
ทำไมวันนี้ประเทศจีนจึงมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นที่ 1 ในเอเชียแซงประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีนวันนี้กลายเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก ได้เปรียบดุลการค้ากับประเทศคู่ค้าทุกแห่งในโลก และมีการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป็นอันดับ 1 ของโลกได้อย่างไรครับ?

วิสัชนา
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1949 เหมา เจ๋อตุง ยึดประเทศจีนได้ และได้เปลี่ยนประเทศจีนให้มาใช้ระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมคอมมิวนิสต์อย่างเคร่งครัด ระยะเวลาผ่านไปเพียง 11 ปี คนจีนทั่วประเทศต้องอดตายถึง 30 ล้านคน และประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่ล้าหลังทางเศรษฐกิจ
ปี ค.ศ.1965 เหมา เจ๋อตุง เริ่มปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีน โดยใช้คำขวัญว่า ผู้ฝักใฝ่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม เป็นศัตรูของประชาชน
ปี ค.ศ.1976 เหมา เจ๋อตุง ถึงแก่อสัญกรรมในวันนี้ 9 กันยายน และแก๊ง 4 คน ที่เป็นหัวขบวนของการปฏิวัติวัฒนธรรมถูกจับดำเนินคดีในศาล
ปี ค.ศ.1978 เติ้ง เสี่ยวผิง กลับมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนและมีอำนาจในพรรคอีกครั้งหนึ่ง มีการเชิญที่ปรึกษาของประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ มาประชุม ณ ประเทศจีน และบอกให้สหรัฐฯ ตัดสินใจในการตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เมื่อสหรัฐฯ ปิดสถานทูตในไต้หวัน จีนก็เริ่มเปิดประเทศค้าขายกับโลกทุนนิยมเสรี
ปี ค.ศ.1981 หมู่บ้านเสี่ยวกัง มณฑลอันฮุย สามารถทำการเกษตรเลี้ยงตนเองได้เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นประเทศจีนก็ไม่จำเป็นต้องปันส่วนอาหารอีก
ปี ค.ศ.1985 จีนได้ยกรูปของ คาร์ล มาร์กซ์ ออกจากจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนได้เข้าส่งระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีอย่างเต็มตัว
ปี ค.ศ.1986 ในขณะที่ภาคการเกษตรของจีนสามารถเลี้ยงตนเองได้ แต่ภาคอุตสาหกรรมยังไม่ประสบความสำเร็จ โรงงานของรัฐที่ไม่ทำกำไรถูกปิด ทำให้มีคนตกงานถึง 100 ล้านคน
ปี ค.ศ.1988 ประเทศจีนได้ทดลองยุติการควบคุมราคาสินค้า เกิดการกักตุน เก็งกำไร และสินค้ามีราคาสูงขึ้น สินค้าจำเป็นหลายอย่างหายไปจากตลาด ประชาชนต้องแย่งกันซื้อข้าวของเป็นครั้งแรก โรงงานของต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายฝั่งทะเลประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า และไม่สามารถบริหารจัดการขึ้นเงินเดือนคนขยัน และไล่คนขี้เกียจออกจากโรงงานของตนได้ ทำให้การผลิตสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับระบบกฎหมายที่ซับซ้อนมีขั้นตอนมากมายเป็นอุปสรรคจนทำให้ ฟิล ไนต์ เจ้าของบริษัทรองเท้ายี่ห้อ Nike ที่เข้ามาลงทุนผลิตรองเท้าในประเทศจีนขณะนั้น ประกาศกับชาวโลกว่า "รองเท้าที่ผลิตในประเทศจีนมีต้นทุนสูงที่สุดในโลก" ข้อสำคัญคือ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในเกือบทุกมณฑลมีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมาย ต้นปี ค.ศ.1989 มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเกือบ 6,000 คน ถูกจับกุมในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น
15 พฤษภาคม ปีนั้น (1988) หู เย่าปัง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ หัวใจวายเสียชีวิต ต้นเดือนพฤษภาคม มีการชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน มีผู้เข้าร่วมชุมชมเป็นล้านคน หัวข้อการชุมนุมส่วนใหญ่คือการต่อต้านคอร์รัปชั่นที่มีอยู่อย่างมากมายในประเทศจีนขณะนั้น
17 พฤษภาคม 1988 ประเทศจีนประกาศกฎอัยการศึก
2 มิถุนายน 1988 รัฐบาลมีมติให้ใช้กำลังทหารปราบปรามความไม่สงบ
3 มิถุนายน 1988 มีการเคลื่อนกำลังทหารเพื่อเปิดพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 5 ทุ่ม – ตีหนึ่ง เป็นโศกนาฏกรรมที่ทหารฆ่าประชาชนออกทีวีถ่ายทอดไปทั่วโลก
ประเทศจีนหลังเหตุการณ์นองเลือด ณ จัตุรัสเทียนอันเหมินตกต่ำมากในสายตาของชาวโลก หลายๆ ประเทศคว่ำบาตรไม่ยอมค้าขายกับรัฐบาลประเทศจีน เหตุการณ์นี้ทำให้ เติ้ง เสี่ยวผิง หมดอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์ และมีการถกเถียงกันในพรรคเรื่องของการหันกลับไปใช้เศรษฐกิจสังคมนิยมคอมมิวนิสต์อีกครั้งหนึ่ง
ปี ค.ศ.1991 เติ้ง เสี่ยวผิง ปฏิบัติการนอกระบบ มีการเรียกประชุมสภากลาโหม กองทัพจีนสนับสนุนนโยบายของ เติ้ง เสี่ยวผิง
ปี ค.ศ.1994 เจียง เจ๋อหมิน เลขาธิการพรรคในขณะนั้น แปรพักตร์หันกลับมาสนับสนุนนโยบายการปฏิรูปของ เติ้ง เสี่ยวผิง อีกครั้งหนึ่ง
ปี ค.ศ.1995 ประเทศจีน เปิดประเทศครั้งที่ 2 มีการจัดการแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับการลงทุนของต่างชาติให้ดีขึ้น จัดการกับการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ทั้งคนใกล้ชิด ผู้มีอำนาจ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการที่อยู่ห่างไกล และที่สำคัญที่สุดคือ ได้มีการปรับค่าเงินหยวนของจีน จากเมื่อก่อนที่มี 2 อัตรา คือ อัตราทางการกับอัตราใต้ดิน ซึ่งในการเปิดประเทศครั้งแรกนั้น อัตราแลกเปลี่ยนจากที่เคยอยู่ที่ประมาณ 3-4 หยวน ต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ มาเป็น 8.62 หยวน ต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐตายตัว ซึ่งเป็นการลดค่าเงินของจีนลงมาเกิน 50% ทำให้สินค้าที่ผลิตในประเทศจีนทุกชนิดมีราคาต่ำลงและขายดีในตลาดโลก จนโรงงานที่ตั้งอยู่ดั้งเดิมในยุโรปและสหรัฐฯ ต้องทยอยปิดโรงงานและมาจ้างประเทศจีนเป็นผู้ผลิตให้ ในขณะที่ประเทศจีนก็ทำการคัดเลือกอุตสาหกรรมที่จะอนุญาตให้เข้ามาลงทุนในประเทศ เป็นอุตสาหกรรมที่คนจีนจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และรายได้ของคนจีนเท่านั้น ไม่มีการอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในอุตสาหกรรมที่จะเป็นการแข่งขันกับคนจีนในประเทศ มีการจำกัดจำนวนวิศวกรของต่างชาติ และบังคับให้มีการจ้างวิศวกรจีนในโรงงาน ไม่ได้เปิดเสรีทางการเงิน เงินเข้ามาลงทุนในประเทศจีนก็ต้องมีการขออนุญาต การจะนำเงินออกจากประเทศก็ต้องมีการขออนุญาตเช่นกัน
หลังปี ค.ศ.1995–2015 เป็นระยะเวลาเพียง 20 ปี ประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่ผลิตคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูงๆ แข่งกับทุกประเทศในโลกได้ เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 2 ของโลก
การพัฒนาประเทศในระบบทุนนิยมที่ถูกต้องและเท่าทัน สามารถที่จะพลิกจากประเทศที่ยากจน อดอยาก กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแรง และประชาชนกินดีอยู่ดีได้ภายในระยะเวลา 20 ปี เท่านั้น ครับ