Friday, October 23, 2015

ข้อสังเกตุเรื่อง มุสลิม จะยึดครองประเทศไทย

มีคนตั้งข้อสังเกตุเรื่อง มุสลิม จะยึดครองประเทศไทย

ยังจำวันที่คมช.รัฐประหาร เมื่อ ๑๙ ก.ย. ๔๙ ได้ดี ยึดอำนาจวันนั้นแล้วตอนบ่ายก็มีประกาศออกมาเลยเรื่อง
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งโดย คมช. ออกประกาศแต่งตั้งคณะกรรมาธิการศาสนาจำนวน ๑๑ คน
เห็นแล้วนึกว่าอยู่ในประเทศมุสลิม แต่งตั้งมาได้ยังไง

๑. ศ.กรีติ บุญเจือ คริสต์
๒. นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ พุทธ
๓. นายเสถียรพงษ์ วรรณปก พุทธ
๔. นายวินัย สะมะอุน อิสลาม
๕. นายแวดือ รมแม มะมิงจิ อิสลาม
๖. นายดำรง สุมาลยศักดิ์ อิสลาม
๗. นายแวฮาดี แวดาโอะ อิสลาม
๘. นายอับดุลเราะแม เจะแซ อิสลาม
๙. นายอับดุล รอซัค อาลี อิสลาม
๑๐.นายอิสมาเอล อารี อิสลาม
๑๑.นายอิสมา ลลุตปี จะปากียา อิสลาม

ข้อสังเกตุเรื่อง มุสลิม จะยึดครองประเทศไทย

มีคนตั้งข้อสังเกตุเรื่อง มุสลิม จะยึดครองประเทศไทย

ยังจำวันที่คมช.รัฐประหาร เมื่อ ๑๙ ก.ย. ๔๙ ได้ดี ยึดอำนาจวันนั้นแล้วตอนบ่ายก็มีประกาศออกมาเลยเรื่อง
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตั้งโดย คมช. ออกประกาศแต่งตั้งคณะกรรมาธิการศาสนาจำนวน ๑๑ คน
เห็นแล้วนึกว่าอยู่ในประเทศมุสลิม แต่งตั้งมาได้ยังไง

๑. ศ.กรีติ บุญเจือ คริสต์
๒. นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ พุทธ
๓. นายเสถียรพงษ์ วรรณปก พุทธ
๔. นายวินัย สะมะอุน อิสลาม
๕. นายแวดือ รมแม มะมิงจิ อิสลาม
๖. นายดำรง สุมาลยศักดิ์ อิสลาม
๗. นายแวฮาดี แวดาโอะ อิสลาม
๘. นายอับดุลเราะแม เจะแซ อิสลาม
๙. นายอับดุล รอซัค อาลี อิสลาม
๑๐.นายอิสมาเอล อารี อิสลาม
๑๑.นายอิสมา ลลุตปี จะปากียา อิสลาม

กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ "นิรนาม" ผลงานดังระดับโลก "Anonymous" ได้ประกาศแถลงการณ์ต่อต้านการทำ Single Gateway รวมถึงประณามการกระทำของ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา

หยุดดัดจริตประเทศไทย's photo.

กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ "นิรนาม" ผลงานดังระดับโลก "Anonymous"
ได้ประกาศแถลงการณ์ต่อต้านการทำ Single Gateway
รวมถึงประณามการกระทำของ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา

====================================

สวัสดีประชาชนชาวโลก เราคือ anonymous (นิรนาม)

รัฐบาลไทย, เราได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของพวกคุณที่ตัดสินใจละเมิดเพิกเฉยประชาชนของคุณ พลเมืองของประเทศคุณ และดื้อด้านยืนกรานในการสร้าง Gatewaysที่จะสร้างระบบเอื้อประโยชน์เฉพาะตัวคุณ และเครือข่ายพรรคพวกของคุณเท่านั้น

เราได้เห็นสถานการณ์ที่เลยเถิดในประเทศไทยนานนับเดือน
เราได้เห็นการจำกัดเสรีภาพในการพูดซึ่งเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐาน สิทธิในการประท้วง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ คสช.

โครงการล่าสุดของรัฐบาลทหารไทยคือการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อที่จะควบคุม ยับยั้ง และจับกุมใครก็ตามที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของ คสช. หรือสิ่งที่ คสช นิยามมันว่า "ศีลธรรมอันดี"

ไม่มีระบบตรวจจับอะไรหยุดการก่อการร้ายได้ ไม่ว่าภัยคุกคามนั้นจะมาจากเอเชียหรือประเทศตะวันตก Singel Gatewayก็แค่ทำให้รัฐบาลที่ละโมบและเครือข่ายของพวกเค้าได้กอบโกยมากขึ้น และเอื้อให้จำกัดเสรีภาพในการพูดของประชาชนในประเทศนี้

สยามเมืองยิ้ม ไม่นานก็จะเป็นเหมือน จีน เกาหลีเหนือ หรือประเทศที่มีทรราชเผด็จการปกครอง ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิคในการสอดแนมและเล่นงานประชาชนของตนเองที่คิดต่างจาก รัฐบาล

มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่ คสช. แต่งตั้งคนของพวกเค้าที่เป็นนายทหาร มาควบคุมดูแลองค์กรสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุด CAT Telecom หน่วยงานหรือบุคคลใดๆ ที่มีส่วนช่วยในการดำเนินการ Single Gateway นี้ จะตกเป็นเป้าโจมตีทางอิเล็กทรอนิคส์ในทุกๆทาง

เราจะไม่เพียงแต่ต่อสู้กับโครงการ Single Gateway แต่เราจะเปิดเผยความโสมมของพวกคุณรัฐบาลทหาร คสช. ให้โลกได้รับรู้ ทั้งเรื่องการคอรัปชั่น และผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ

คนมากกว่า 6000 คนตาย และกว่า 10,000 คนบาดเจ็บในเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย คุณไม่มีงบประมาณที่จะหยุดยั้งการก่อการร้ายนั้นที่พรากชีวิตคนบริสุทธิ์ แต่คุณกลับทุ่มงบประมาณ 15 ล้านดอลล่าห์เพื่อจะเซนเซอร์พลเมืองของคุณ พี่น้องชาวไทยจะเข้าใจว่าเราหมายถึง "ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย"

พวกเราทั้งหลายจะร่วมกันต่อต้านความอยุติธรรมของรัฐบาล
วันข้างหน้ารัฐบาลจะต้องรับกรรมจากการที่คุณกดขี่ข่มเหงประชาชนของคุณเอง

คุณสามารถจับขังปรับทัศนคติเรา แต่คุณไม่อาจจับกุมความคิดเราได้

เราคือนิรนาม
เราคือทุกแห่งหน
รวมพลังกันเป็นหนึ่ง
ไม่อาจถูกแบ่งแยก
เราไม่ยกโทษให้กับการเซนเซอร์
เราไม่ลืมเลือนการกดขี่ข่มเหงของคุณ
จงหวาดกลัวเรา

นิรนาม

ที่มาของข่าว

Voice TV
https://www.facebook.com/VoiceTVonline/photos/a.131804224847.132218.131732549847/10154473444019848/?type=3

ที่มาของแถลงการณ์
http://pastebin.com/SL0ZaMxT
.
===================================

แอดมินได้เช็คที่ ทวิตเตอร์หลักของกลุ่มเค้าแล้ว...
สรุปว่ารอบนี้ "ของจริง" ว่ะครับ งานนี้มีเปิดสาขา เอเชีย แล้ว
ที่มาจากแอคเค้าหลักของกลุ่มนี้ เดียวอัพภาพให้
(https://twitter.com/YourAnonNews)

ผลงานเด่นดังของ กลุ่มนิรนามนี้ ก็ได้แก่การเล่นงาน Sony เละเทะ
หรือ Hack โปรแกรมดังๆเพื่อไปลบบัญชีคนที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS เป็นต้น

ถ้าให้เปรียบเทียบพอเห็นภาพสภาพการรบทาง Cyber แล้วล่ะก็
เปรียบได้ว่า คสช. กำลังรบกับอเมริกาและรัซเซียทีเดียว "พร้อมกัน" ถ้ากลุ่มนี้เอาจริง แอดมินยังไม่เห็นทางชนะของ คสช. เลยแม้แต่นิดเดียว

ผลงานแรกคือการเจาระบบฐานข้อมูลลูกค้าของ Cat Telecom
https://www.blognone.com/node/73925

นี่แหละครับผลของการดึงดันของ คสช.
ที่ไม่ยอมยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี "จัดตั้งSingle Gateway"
ทุกความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นผลจากของ คสช.ทั้งสิ้น

หยุดดัดจริตประเทศไทย

กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ "นิรนาม" ผลงานดังระดับโลก "Anonymous" ได้ประกาศแถลงการณ์ต่อต้านการทำ Single Gateway รวมถึงประณามการกระทำของ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา

หยุดดัดจริตประเทศไทย's photo.

กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ "นิรนาม" ผลงานดังระดับโลก "Anonymous"
ได้ประกาศแถลงการณ์ต่อต้านการทำ Single Gateway
รวมถึงประณามการกระทำของ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา

====================================

สวัสดีประชาชนชาวโลก เราคือ anonymous (นิรนาม)

รัฐบาลไทย, เราได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของพวกคุณที่ตัดสินใจละเมิดเพิกเฉยประชาชนของคุณ พลเมืองของประเทศคุณ และดื้อด้านยืนกรานในการสร้าง Gatewaysที่จะสร้างระบบเอื้อประโยชน์เฉพาะตัวคุณ และเครือข่ายพรรคพวกของคุณเท่านั้น

เราได้เห็นสถานการณ์ที่เลยเถิดในประเทศไทยนานนับเดือน
เราได้เห็นการจำกัดเสรีภาพในการพูดซึ่งเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐาน สิทธิในการประท้วง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ คสช.

โครงการล่าสุดของรัฐบาลทหารไทยคือการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อที่จะควบคุม ยับยั้ง และจับกุมใครก็ตามที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของ คสช. หรือสิ่งที่ คสช นิยามมันว่า "ศีลธรรมอันดี"

ไม่มีระบบตรวจจับอะไรหยุดการก่อการร้ายได้ ไม่ว่าภัยคุกคามนั้นจะมาจากเอเชียหรือประเทศตะวันตก Singel Gatewayก็แค่ทำให้รัฐบาลที่ละโมบและเครือข่ายของพวกเค้าได้กอบโกยมากขึ้น และเอื้อให้จำกัดเสรีภาพในการพูดของประชาชนในประเทศนี้

สยามเมืองยิ้ม ไม่นานก็จะเป็นเหมือน จีน เกาหลีเหนือ หรือประเทศที่มีทรราชเผด็จการปกครอง ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิคในการสอดแนมและเล่นงานประชาชนของตนเองที่คิดต่างจาก รัฐบาล

มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่ คสช. แต่งตั้งคนของพวกเค้าที่เป็นนายทหาร มาควบคุมดูแลองค์กรสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุด CAT Telecom หน่วยงานหรือบุคคลใดๆ ที่มีส่วนช่วยในการดำเนินการ Single Gateway นี้ จะตกเป็นเป้าโจมตีทางอิเล็กทรอนิคส์ในทุกๆทาง

เราจะไม่เพียงแต่ต่อสู้กับโครงการ Single Gateway แต่เราจะเปิดเผยความโสมมของพวกคุณรัฐบาลทหาร คสช. ให้โลกได้รับรู้ ทั้งเรื่องการคอรัปชั่น และผลประโยชน์ทับซ้อนต่างๆ

คนมากกว่า 6000 คนตาย และกว่า 10,000 คนบาดเจ็บในเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย คุณไม่มีงบประมาณที่จะหยุดยั้งการก่อการร้ายนั้นที่พรากชีวิตคนบริสุทธิ์ แต่คุณกลับทุ่มงบประมาณ 15 ล้านดอลล่าห์เพื่อจะเซนเซอร์พลเมืองของคุณ พี่น้องชาวไทยจะเข้าใจว่าเราหมายถึง "ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย"

พวกเราทั้งหลายจะร่วมกันต่อต้านความอยุติธรรมของรัฐบาล
วันข้างหน้ารัฐบาลจะต้องรับกรรมจากการที่คุณกดขี่ข่มเหงประชาชนของคุณเอง

คุณสามารถจับขังปรับทัศนคติเรา แต่คุณไม่อาจจับกุมความคิดเราได้

เราคือนิรนาม
เราคือทุกแห่งหน
รวมพลังกันเป็นหนึ่ง
ไม่อาจถูกแบ่งแยก
เราไม่ยกโทษให้กับการเซนเซอร์
เราไม่ลืมเลือนการกดขี่ข่มเหงของคุณ
จงหวาดกลัวเรา

นิรนาม

ที่มาของข่าว

Voice TV
https://www.facebook.com/VoiceTVonline/photos/a.131804224847.132218.131732549847/10154473444019848/?type=3

ที่มาของแถลงการณ์
http://pastebin.com/SL0ZaMxT
.
===================================

แอดมินได้เช็คที่ ทวิตเตอร์หลักของกลุ่มเค้าแล้ว...
สรุปว่ารอบนี้ "ของจริง" ว่ะครับ งานนี้มีเปิดสาขา เอเชีย แล้ว
ที่มาจากแอคเค้าหลักของกลุ่มนี้ เดียวอัพภาพให้
(https://twitter.com/YourAnonNews)

ผลงานเด่นดังของ กลุ่มนิรนามนี้ ก็ได้แก่การเล่นงาน Sony เละเทะ
หรือ Hack โปรแกรมดังๆเพื่อไปลบบัญชีคนที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS เป็นต้น

ถ้าให้เปรียบเทียบพอเห็นภาพสภาพการรบทาง Cyber แล้วล่ะก็
เปรียบได้ว่า คสช. กำลังรบกับอเมริกาและรัซเซียทีเดียว "พร้อมกัน" ถ้ากลุ่มนี้เอาจริง แอดมินยังไม่เห็นทางชนะของ คสช. เลยแม้แต่นิดเดียว

ผลงานแรกคือการเจาระบบฐานข้อมูลลูกค้าของ Cat Telecom
https://www.blognone.com/node/73925

นี่แหละครับผลของการดึงดันของ คสช.
ที่ไม่ยอมยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี "จัดตั้งSingle Gateway"
ทุกความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นผลจากของ คสช.ทั้งสิ้น

หยุดดัดจริตประเทศไทย

Thursday, October 22, 2015

23 ตุลาคม “ วันปิยะมหาราช” (ไทยไม่เป็นเมืองขึ้น ) จริงหรือ? โดย อนันต์ ประพงษ์

อนันต์ ประพงษ

23 ตุลาคม " วันปิยะมหาราช"
(ไทยไม่เป็นเมืองขึ้น ) 
 

​อ.ฮาร์วาร์ดเข้าใจผิดไทยไม่เป็นเมืองขึ้น
ถ้าไม่อธิบายก็จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยพินาศหายนะไปกันไป กันใหญ่และจะเป็นการสร้างทฤษฏีผิดๆกับการเมืองไทย จากข้อคิดเห็นของ ศาสตราจารย์ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ อาจารย์คณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรมในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะประเทศไทย โดย ศ.ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ มองว่า " ไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาณานิคมอำพรางในงานเสวนาหัวข้อ "Crypto-Colonialism" หรือ "อาณานิคมอำพราง" ซึ่ง มติชนออนไลน์ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา
โดย ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ ท่านนี้ได้เล่าถึงตอนหนึ่งว่า "แบบเรียนทางประวัติศาสตร์ของไทยสร้างการรับรู้ความเป็น "ชาติ" ผ่านแนวคิดต่างๆโดยมีวรรคสำคัญๆที่ระบุว่า "ไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น" ซึ่งแนวคิดนี้มักเป็นที่ถกเถียงกันเสมอ
ในมุมมองของศาสตราจารย์ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ อาจารย์คณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรมในพื้นที่ต่างๆรวมถึงไทยด้วย โดย อาจารย์มองว่า ไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาณานิคมอำพราง "
จากความเห็นโดยหลักๆดังกล่าวของ ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มองว่าไทยเป็นเมืองขึ้นของประเทศล่าอาณานิคม แม้จะอธิบายว่าเป็น " อาณานิคมอำพลาง" (Crypto-Colonialism) ซึ่งก็คือ ประเทศอาณานิคมของประเทศล่าอาณานิคม
จะต้องเจ้าใจว่าการเป็นเมืองขึ้นของประเทศเจ้าอาณานิคม ประเทศ ประเทศที่เป็นเมืองขึ้นจะสูญเสียอำนาจการปกครองในทางการเมือง และไม่มีเอกราชทางการเมือง
ลักษณะของความเป็น " เอกราช" ในทางการเมืองเป็นหลักการชี้ว่าเป็นเมืองขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่เอาหลักการทางเศรษฐกิจ , ทางวัฒนธรรม, ทางภาษา, ทางดินแดน มาเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นเมืองขึ้น
เพราะฉะนั้น ประเทศไทยหลังการก่อ "ตั้งรัฐชาติ" ขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2435 เป็นการเริ่มต้นของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ประเทศไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นทางการเมืองกับประเทศล่าอาณานิคม โดยพิจารณาจากหลักการทางเอกราชในทางการเมือง
ซึ่งประเทศไทยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและมีอิสระในทางการเมืองจาก ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ไม่มีประเทศล่าอาณานิคมและเจ้าอาณานิคมอีกแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยยังเป็นอิสระแม้จะถูกชี้นำนำและ ครอบงำ แต่ก็เป็นการครอบงำทางความคิดแต่การตัดสินใจของเป็นของรัฐบาลไทยและการ ปกครองของประเทศไทย
การครอบงำและอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ ไม่ใช่เครื่องชี้วัดถึงความเป็นประเทศเมืองขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทุกๆครั้งที่ผ่านมาหลัง พ.ศ. 2475 ก็เป็นลักษณะของความขัดแย้งในผู้ปกครองของประเทศไทยเองในทางการเมือง สาเหตุมาจากความเป็นเอกราชแต่อำนาจในทางการเมืองยังเป็นของคนชนชั้นส่วนน้อย
ลักษณะทางการเมืองของประเทศถูกครอบงำด้วยอำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย ซึ่งเป็นลักษณะของการปกครองแบบเผด็จการ
ความเป็นระบอบเผด็จการทำให้องค์ประกอบของ "ชาติ" ในด้านเศรษฐกิจ, ดินแดน, ภาษา,และวัฒนธรรม สั่นคลอน คล้ายๆถูกบ่งการจากประเทศเจ้าอาณานิคม ซึ่งไม่มีแล้วในยุคนี้
ไม่ว่าประเทศไหนที่เป็นระบอบเผด็จการในทางการเมืองก็จะมีลักษณะเดียวกับที่ประเทศไทยเป็นอยู่ขณะนี้
ซึ่งโดยเนื้อในแล้ว ก็คือ ไทยยังมีเอกราชอย่างสมบูรณ์ แต่ความเป็นเอกราชในทางการเมืองของไทยก็ถูกชี้นำจากคนส่วนน้อย หรือ ระบอบเผด็จการเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ มีการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างผู้ปกครองด้วยกันเอง และการแย่งชิงอำนาจกันเองนี้เป็นเพราะทฤษฏีทางการเมืองที่ผิดหลักวิชาถูก ครอบงำมาอย่างยาวนาน จนทำให้ "ชาติ" เกิดความไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ความคิดเห็นในเรื่องลักษณะสังคมไทยเคยวิเคราะห์ที่ผิดพลาดมาแล้วจนกำหนดการ เคลื่อนไหวเพื่อได้อำนาจรัฐด้วย " แนวทางรุนแรง" การต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นสงครามกลางเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่กำหนดลักษณะของชาติไทยว่าเป็น " กึ่งเมือง กึ่งศักดินา" ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจว่าไทยยังมีเอกราชทางการเมือง ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นหรือเป็นประเทศอาณานิคมของใคร ก็ดูจากขณะนี้ แม้รัฐบาลไทยจะถูกประเทศประชาธิปไตยและมหาอำนาจเล่นงานทางเศรษฐกิจขนาดไหน รัฐบาลไทยก็ยังมีความเป็นอิสระในทางการเมืองและนโยบายทางการเมือง แม้การรัฐประหาร,การเลือกตั้งการร่างรัฐธรรมนูญของไทยก็ทำแล้วทำอีกก็ไม่ เห็นมีรัฐบาลเจ้าอาณานิคมประเทศไหนมาบ่งการ
ซึ่งลักษณะต่างๆที่เกิดขึ้นทางสังคมไทย นั้น เป็นเรื่องของนโยบายทางการเมืองและผลของ "ระบอบเผด็จการ" ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผลจากระบอบประชาธิปไตย เช่น เรื่องการทุจริตคอร์รับชั่น เงินใต้โต๊ะ ,ความยากจน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมาจากผลพวงของระบอบเผด็จการทางการเมืองของประเทศเอกราชของไทย ไม่ใช่มาจากผลพวงของเจ้าอาณานิคมที่จะส่งออกการทุจริตคอร์รับชั่น, ความยากจนมาสู่ประเทศไทย
ดังนั้น ไทยไม่มีเจ้าอาณานิคมอย่างที่ ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ จากอาร์วาร์ด อีกแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงความเป็นประเทศอาณานิคมอีกต่อไป คนไทยไม่สมควรจะไร้ซึ่งศักดิ์ศรีแม้แต่จะอธิบายถึงชาติตัวเอง
เพราะฉะนั้น ในความภาคถูมิใจในความเป็นเอกราช แต่ในความเป็นระบอบเผด็จการของไทยก็ทำลายศักดิ์ศรีของประเทศไทยทางอ้อมและ ทำลายความไม่มั่นคงของชาติไทย เช่นกัน และคนที่ทำลายชาติจะต้องมีอำนาจอธิปไตยและมีอำนาจรัฐ เท่านั้น ประชาชนที่ไม่ได้ถืออำนาจอธิปไตยไม่มีสิทธิทำลายชาติและทำลายความมั่นคงของ ชาติ

23 ตุลาคม “ วันปิยะมหาราช” (ไทยไม่เป็นเมืองขึ้น ) จริงหรือ? โดย อนันต์ ประพงษ์

อนันต์ ประพงษ

23 ตุลาคม " วันปิยะมหาราช"
(ไทยไม่เป็นเมืองขึ้น ) 
 

​อ.ฮาร์วาร์ดเข้าใจผิดไทยไม่เป็นเมืองขึ้น
ถ้าไม่อธิบายก็จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยพินาศหายนะไปกันไป กันใหญ่และจะเป็นการสร้างทฤษฏีผิดๆกับการเมืองไทย จากข้อคิดเห็นของ ศาสตราจารย์ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ อาจารย์คณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรมในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะประเทศไทย โดย ศ.ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ มองว่า " ไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาณานิคมอำพรางในงานเสวนาหัวข้อ "Crypto-Colonialism" หรือ "อาณานิคมอำพราง" ซึ่ง มติชนออนไลน์ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา
โดย ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ ท่านนี้ได้เล่าถึงตอนหนึ่งว่า "แบบเรียนทางประวัติศาสตร์ของไทยสร้างการรับรู้ความเป็น "ชาติ" ผ่านแนวคิดต่างๆโดยมีวรรคสำคัญๆที่ระบุว่า "ไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น" ซึ่งแนวคิดนี้มักเป็นที่ถกเถียงกันเสมอ
ในมุมมองของศาสตราจารย์ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ อาจารย์คณะมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรมในพื้นที่ต่างๆรวมถึงไทยด้วย โดย อาจารย์มองว่า ไทยเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาณานิคมอำพราง "
จากความเห็นโดยหลักๆดังกล่าวของ ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มองว่าไทยเป็นเมืองขึ้นของประเทศล่าอาณานิคม แม้จะอธิบายว่าเป็น " อาณานิคมอำพลาง" (Crypto-Colonialism) ซึ่งก็คือ ประเทศอาณานิคมของประเทศล่าอาณานิคม
จะต้องเจ้าใจว่าการเป็นเมืองขึ้นของประเทศเจ้าอาณานิคม ประเทศ ประเทศที่เป็นเมืองขึ้นจะสูญเสียอำนาจการปกครองในทางการเมือง และไม่มีเอกราชทางการเมือง
ลักษณะของความเป็น " เอกราช" ในทางการเมืองเป็นหลักการชี้ว่าเป็นเมืองขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่เอาหลักการทางเศรษฐกิจ , ทางวัฒนธรรม, ทางภาษา, ทางดินแดน มาเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นเมืองขึ้น
เพราะฉะนั้น ประเทศไทยหลังการก่อ "ตั้งรัฐชาติ" ขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2435 เป็นการเริ่มต้นของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ประเทศไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นทางการเมืองกับประเทศล่าอาณานิคม โดยพิจารณาจากหลักการทางเอกราชในทางการเมือง
ซึ่งประเทศไทยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและมีอิสระในทางการเมืองจาก ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ไม่มีประเทศล่าอาณานิคมและเจ้าอาณานิคมอีกแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยยังเป็นอิสระแม้จะถูกชี้นำนำและ ครอบงำ แต่ก็เป็นการครอบงำทางความคิดแต่การตัดสินใจของเป็นของรัฐบาลไทยและการ ปกครองของประเทศไทย
การครอบงำและอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ ไม่ใช่เครื่องชี้วัดถึงความเป็นประเทศเมืองขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทุกๆครั้งที่ผ่านมาหลัง พ.ศ. 2475 ก็เป็นลักษณะของความขัดแย้งในผู้ปกครองของประเทศไทยเองในทางการเมือง สาเหตุมาจากความเป็นเอกราชแต่อำนาจในทางการเมืองยังเป็นของคนชนชั้นส่วนน้อย
ลักษณะทางการเมืองของประเทศถูกครอบงำด้วยอำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย ซึ่งเป็นลักษณะของการปกครองแบบเผด็จการ
ความเป็นระบอบเผด็จการทำให้องค์ประกอบของ "ชาติ" ในด้านเศรษฐกิจ, ดินแดน, ภาษา,และวัฒนธรรม สั่นคลอน คล้ายๆถูกบ่งการจากประเทศเจ้าอาณานิคม ซึ่งไม่มีแล้วในยุคนี้
ไม่ว่าประเทศไหนที่เป็นระบอบเผด็จการในทางการเมืองก็จะมีลักษณะเดียวกับที่ประเทศไทยเป็นอยู่ขณะนี้
ซึ่งโดยเนื้อในแล้ว ก็คือ ไทยยังมีเอกราชอย่างสมบูรณ์ แต่ความเป็นเอกราชในทางการเมืองของไทยก็ถูกชี้นำจากคนส่วนน้อย หรือ ระบอบเผด็จการเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ มีการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างผู้ปกครองด้วยกันเอง และการแย่งชิงอำนาจกันเองนี้เป็นเพราะทฤษฏีทางการเมืองที่ผิดหลักวิชาถูก ครอบงำมาอย่างยาวนาน จนทำให้ "ชาติ" เกิดความไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ความคิดเห็นในเรื่องลักษณะสังคมไทยเคยวิเคราะห์ที่ผิดพลาดมาแล้วจนกำหนดการ เคลื่อนไหวเพื่อได้อำนาจรัฐด้วย " แนวทางรุนแรง" การต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นสงครามกลางเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่กำหนดลักษณะของชาติไทยว่าเป็น " กึ่งเมือง กึ่งศักดินา" ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจว่าไทยยังมีเอกราชทางการเมือง ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นหรือเป็นประเทศอาณานิคมของใคร ก็ดูจากขณะนี้ แม้รัฐบาลไทยจะถูกประเทศประชาธิปไตยและมหาอำนาจเล่นงานทางเศรษฐกิจขนาดไหน รัฐบาลไทยก็ยังมีความเป็นอิสระในทางการเมืองและนโยบายทางการเมือง แม้การรัฐประหาร,การเลือกตั้งการร่างรัฐธรรมนูญของไทยก็ทำแล้วทำอีกก็ไม่ เห็นมีรัฐบาลเจ้าอาณานิคมประเทศไหนมาบ่งการ
ซึ่งลักษณะต่างๆที่เกิดขึ้นทางสังคมไทย นั้น เป็นเรื่องของนโยบายทางการเมืองและผลของ "ระบอบเผด็จการ" ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผลจากระบอบประชาธิปไตย เช่น เรื่องการทุจริตคอร์รับชั่น เงินใต้โต๊ะ ,ความยากจน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมาจากผลพวงของระบอบเผด็จการทางการเมืองของประเทศเอกราชของไทย ไม่ใช่มาจากผลพวงของเจ้าอาณานิคมที่จะส่งออกการทุจริตคอร์รับชั่น, ความยากจนมาสู่ประเทศไทย
ดังนั้น ไทยไม่มีเจ้าอาณานิคมอย่างที่ ศ. ไมเคิล เฮิร์ซเฟลด์ จากอาร์วาร์ด อีกแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงความเป็นประเทศอาณานิคมอีกต่อไป คนไทยไม่สมควรจะไร้ซึ่งศักดิ์ศรีแม้แต่จะอธิบายถึงชาติตัวเอง
เพราะฉะนั้น ในความภาคถูมิใจในความเป็นเอกราช แต่ในความเป็นระบอบเผด็จการของไทยก็ทำลายศักดิ์ศรีของประเทศไทยทางอ้อมและ ทำลายความไม่มั่นคงของชาติไทย เช่นกัน และคนที่ทำลายชาติจะต้องมีอำนาจอธิปไตยและมีอำนาจรัฐ เท่านั้น ประชาชนที่ไม่ได้ถืออำนาจอธิปไตยไม่มีสิทธิทำลายชาติและทำลายความมั่นคงของ ชาติ

นปช.ปลุกแนวร่วมใส่เสื้อแดง 1 พ.ย. ปกป้อง"ยิ่งลักษณ์"ไม่ผิดคดีจำนำข้าว

นปช.ปลุกแนวร่วมใส่เสื้อแดง 1 พ.ย. ปกป้อง"ยิ่งลักษณ์"ไม่ผิดคดีจำนำข้าว


​กลุ่มเครือข่ายคนเสื้อแดงบนโลกโซเชียลมีเดีย ได้โพสต์เชิญชวนให้สมาชิกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวทั้งทางแพ่งและอาญา

ทั้งนี้ นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ระบุว่า การนัดใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่การชุมนุม กฎหมายไม่ได้ห้าม และ นปช.ก็ไม่ได้เป็นคนต้นคิด แต่เป็นการเชิญชวนตาม โซเชียลมีเดีย

"การที่คนนัดใส่เสื้อแดง เพราะรู้สึกว่าคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยุติธรรม สองมาตรฐานรีบเร่ง และหากรัฐบาลจะห้ามไม่ให้ใส่เสื้อสีแดง ดูจะเป็นการจำกัดสิทธิของประชาชนมากเกินไปหรือไม่ แต่ถ้าจะห้ามขอให้นายกฯ ใช้มาตรา 44 ระบุมาเลยว่า วันที่ 1 พ.ย.นี้ ห้ามใส่เสื้อสีแดง จะได้รู้กันว่าบ้านเราใส่เสื้อสีแดงไม่ได้" นายวรชัย ระบุ

ขณะที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ระบุว่า นโยบายจำนำข้าวเป็นแนวคิดช่วยเหลือชาวนาให้ได้รับประโยชน์สูงสุด มิใช่นโยบายประชานิยม และถือเป็นหนึ่งในสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยได้รับการยอมรับจากประชาชน ซึ่งไม่มีประเทศใดในโลกนำโครงการเหล่านี้มาพิจารณาในเรื่องกำไรขาดทุน และหากโครงการรับจำนำข้าวผิด โครงการประกันราคาข้าว โครงการ ปรส. ต้องถูกตีความว่าขาดทุนและทำให้ประเทศชาติเสียหายทั้งสิ้น และผู้รับผิดชอบต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน

"การประโคมข่าวเรื่องการทุจริต หรือการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต เป็นกลวิธีหรือวาทกรรมที่ต้องการสร้างกระแสความชอบธรรมทางการเมือง เพื่อทำลายและปรักปรำ น.ส. ยิ่งลักษณ์ อย่างเลวร้าย และไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง จึงขอให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาเหตุผลและข้อเท็จจริงดังกล่าว" แถลงการณ์ระบุ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงแล้ว และขอให้ประชาชนใช้ดุลพินิจว่าการแบ่งสีด้วยการเชิญชวนการแต่งเสื้อสี จะเป็นการทำให้เกิดการแบ่งแยกขึ้นในสังคมอีกหรือไม่ ถ้าเอาความรู้สึกส่วนตัวเป็นที่ตั้งจะทำให้การแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองลำบาก

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ดำเนินการก็จะมีความผิด เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องมา ส่วนโครงการอื่นๆ ไม่มีการส่งเรื่องมาจึงไม่สามารถดำเนินการได้  รัฐบาลจึงไม่มีสิทธิที่จะพิจารณาว่าโครงการใดมีความผิดหรือไม่

"ที่เล่นงานกันเรื่องจำนำข้าวทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะ ป.ป.ช.เขาบอก แต่เขาเคยบอกมาแล้วว่าวันที่เท่านั้น เวลานั้น แล้วยังเพิกเฉย จึงมีเรื่องอยู่ขณะนี้" นายวิษณุ กล่าว